ผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม Fried Noodle with Soy Sauce
ผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม Fried Noodle with Soy Sauce วันนี้แอดพอเพียงจะนำเสนอเมนูสไตล์ไทย ซึ่งแอดพอเพียงลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย นั่นคือผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม อร่อยจนคงทำ มงลงแน่นอน จานโปรดที่ผัดจนเส้นหอมกระทะ เข้ากันได้ดีกับหมูนุ่มๆ ที่หมักมาเป็นอย่างดี ตัดรสด้วยก้านคะน้ากรุบกรอบ ได้ลองแล้วอร่อยถึงชั้นสวรรค์วิมานเชียวค่ะวิธีทำและกรรมวิธี เพื่อนๆสามารถทำตามขั้นตอนได้ง่ายๆ แอดพอเพียงรับประกันความพอใจค่ะ ทำแล้วอร่อยมาก ไปลุยกันเลยค่ะ ไปพิสูจน์ความอร่อยกัน มาทำผัดซีอิ๊วหมูนุ่มกัน แค่คิดก็อดใจไม่ไหวแล้ว มาค่ะ ดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูผัดซีอิ๊วหมูนุ่มกันเลยค่ะ
สูตรผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม
เส้นใหญ่ 1 ถ้วย
หมูหมักนุ่ม 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาล 3 ช้อนชา
ซอสปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 10 กลีบ
คะน้า 1 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม
– วิธีหมักหมู
หั่นหมูเป็นชิ้นพอดีคำ คลุกกับผงฟู พริกไทย และซีอิ๊วขาวเล็กน้อย หมักทิ้งไว้ ก่อนทำให้ลวกผักคะน้า โดยตั้งน้ำให้เดือดใส่น้ำตาล เกลือลงไปเล็กน้อย นำคะน้าไปลวกจนสุก
– วิธีทำผัดซีอิ๊ว
ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนสุกเหลือง และมีกลิ่นหอม จากนั้นให้เร่งไฟขึ้น และใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนสุก ตามด้วยคะน้าที่ลวกไว้
ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วจึงใส่เส้นใหญ่ลงไปผัด
แบ่งส่วนผสมทั้งหมดไปไว้ข้างหนึ่งของกระทะ แล้วตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่เบา ๆ ให้พอเข้ากัน พอเห็นว่าไข่เริ่มสุก ก็ยกเส้นขึ้นมากลบไข่ ใส่คะน้าแล้วผัดให้สุกทั่วกัน
ตักขึ้นใส่จาน โรยด้วยพริกไทยเล็กน้อย เสริฟพร้อม พริกน้ำส้ม พริกป่น น้ำตาลเพื่อปรุงรสตามชอบค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ
VIDEO
ขอขอบคุณข้อมูล – คุณ TomJoke FoodTV จาก https://www.youtube.com/watch?v=74r4F5dtTDw
ประวัติผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม
ผัดซีอิ๊ว หรือ ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว เป็นอาหารยอดนิยมที่มีขายทั่วไปในประเทศไทย เป็นอาหารที่มักจะเป็นเมนูของทุกร้านอาหารตามสั่ง โดยส่วนใหญ่แล้วร้านใดที่ขายราดหน้าจะมีขายผัดซีอิ๊วควบคู่กันไปด้วย ลักษณะการปรุงคล้ายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่จะใส่ซีอิ๊วดำหวาน และใช้ผักคะน้าเป็นวัตถุดิบในการปรุง
วัตถุดิบผัดซีอิ๊วหมูนุ่ม
pork
เนื้อหมู (Pork) จัดเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการนำมาประกอบอาหาร ซึ่งเนื้อหมูเป็นเนื้อที่มีส่วนต่างๆ ให้เลือกใช้ได้หลายส่วน เช่น เนื้อสันนอก เนื้อสันใน เนื้อสะโพก ฯลฯ เนื้อหมูเป็นเนื้อที่มีความอร่อยสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลายประเภท โดยเนื้อหมูแต่ละส่วนจะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป แต่ละส่วนเองก็มีความเหมาะสมในการนำมาประกอบอาหารแตกต่างกันออกไป
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
garlic
กระเทียม (Garlic) ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหารของร่างกาย กระเทียมสดช่วยกระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะอาหารให้หลั่งออกมาย่อยอาหารในปริมาณมากขึ้น และเสริมการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสารอาหารจำพวกโปรตีน เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ช่วยย่อย
broccoli
บร็อคโคลี่ (Broccoli) การเลือกซื้อบร็อคโคลี่ที่มีดอกแน่น กระชับ มีสีเขียวเข้ม ก้านต้องแข็งแรงเหนียวนุ่ม ไม่ควรเลือกซื้อบร็อคโคลี่ที่มีดอกสีเหลือง มีใบเหี่ยวเฉา และมีก้านใบแข็งหรือหนาจนเกินไป เป็นผักที่รสชาติหวานกรอบ สามารถรับประทานสดได้ หรือจะนำมาประกอบอาหารก็ได้หลากหลายเมนู อีกทั้งบร็อคโคลี่ยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่สูงด้วย เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เบตาแคโรทีน วิตามิน C และสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
Post Views:
358